หมาน่ารัก
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554
“สุนัขบางแก้ว”
- ประวัติและความเป็นมาของ สุนัขบางแก้ว
สุนัขไทยพันธุ์เดียวในประเทศไทยที่มีขนยาวสองชั้นหางเป็นพวง มีขน ขาหน้าคล้ายขนขาแข้งสิงห์ แผงรอบคอคล้ายสิงโตมีความเฉลียว ฉลาด ไอคิวสูง ประวัติความเป็นมา ของ สุนัขไทยพันธุ์ บางแก้ว
จากข้อมูล ที่ได้สอบถามจากประชาชนตลอดจนผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านบางแก้วต.บางแก้ว บ้านชุมแสสงคราม ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พอจะสรุปได้ว่า แหล่งกำเนิดของ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่ว ๆ ไปนั้นยังคงเป็น ป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ชุกชุม เช่นช้างป่าเป็นโขลง ๆ หมู่ป่า ไก่ป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาไน
เหตุผล ที่สันนิษฐานว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขลูกผสมสามสายเลือด พื้นที่ในเขต ต.บางแก้ว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ในอดีตนั้นเป็นป่าดงพงพีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย สัตว์ป่านานาชนิดรวม ทั้งสุนัขจิ้งจอก และหมาไนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โอกาสที่สุนัขจิ้กจอกและหมาไนตัวผู้จะมาแอบลักลอบเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมีย ที่เลี้ยงไว้ในวัดบางแก้วนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียวเพราะสุนัขป่าทั้งหลายนี้เป็นสุนัขที่กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ใจปราดเปรียว แข็งแรง เมื่อมีการผสมข้ามพันธุ์กันตามธรรมชาติหรือ เรียกง่ายๆว่าธรรมชาติเป็นผู้ผสม และคัดเลือกพันธุ์ในที่สุดก็ได้สุนัข ไทยพันธุ์บางแก้ว ซึ่งมีลักษณะดีเด่นปรากฎโฉมออกมาคือ มีขนยาว ขนมีลักษณะเป็นขนสองชั้นคล้ายอานม้า หางเป็นพวงสวยงาม มีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงห์โต ดุ เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูง ไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ
หลวงพ่อมาก เมธาวี เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดบางแก้ว ที่วัดของท่านเลี้ยง สุนัขไว้ไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุนัขที่ดุขึ้นชื่อลือชา และชาวบ้านทราบกันดีว่า ใครที่เข้ามาในวัด หรือมีธุระปะปังผ่านไปผ่านมาที่วัดแต่ละครั้งจะต้องตะโกนให้เสียงแต่ไกล ๆ เพื่อให้พระอาจารย์มาก เมธาวี
ท่านช่วยดูหมาเอาไว้ก่อน มิฉะนั้นจะถูกมันไล่กัดเอากระจุย กระเจิงแน่นอน ด้วยกิติศักดิ์ในความดุของ สุนัขที่วัดบางแก้วนี้เองจึงมีผู้คนนิยมมาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงไว้ เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย พื้นที่ ๆ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้ขยายพันธุ์ไปมากที่สุดก็คือ ต.บางแก้ว ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แต่ในปัจจุบันได้ขยายวงกว้างออกไป หลายจังหวัดแล้ว
เนื่องด้วยบริเวณวัดบางแก้วในสมัยนั้นมีลักษณะรอบ ๆ เป็นป่า มีสัตว์ป่าอาศัยค่อยข้างชุกชุม จนกระทั้งสุนัขตัว นั้นได้คลอดลูกออกมา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากสุนัขอื่นๆ ที่มีอยู่ในวัดทั่วไป คือมีขนยาวฟู คล้ายสุนัขต่างประเทศ มีลักษณะสวยงาม โดดเด่นน่าเลี้ยง และมีความดุ จากนั้นสุนัขแบบนี้ก็มีให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวัดบางแก้ว จนประชาชนที่ไปวัด นั้นเห็นถึงความสวยงาม ฉลาด หวงของ และดุ มีความซื่อสัตย์ และภักดีต่อผู้เป็นเจ้าของ จึงขอสุนัขจากท่านหลวงปู่มากมาเลี้ยง เพื่อใช้ในการเฝ้าบ้าน เฝ้าแพ หรือแม้กระทั้งเฝ้าท้องไร่ ท้องนา เพราะความหวงของและซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนาย
สุนัขชนิดนี้จึงแพร่ขยายออกไปทั่วหมู่บ้าน และด้วยเหตุปัจจัยที่หมู่บ้านบางแก้วนั้นมีภูมิประเทศเป็นเกาะในช่วงฤดูน้ำหลากโดยมีแม่น้ำล้อมรอบ และประจวบกับในช่วงดังกล่าวก็เป็นช่วงที่สุนัขนั้นเป็นสัดพอดี สุนัขนั้นไปสามารถออกไปผสมกับสุนัขในถิ่นอื่นได้ จึงเกิดการผสมพันธุ์กันเองภายในเครือญาติเดียวกันหลายต่อหลายช่วงอายุ จนเกิดเป็นสุนัขที่มีลักษณะที่มีลักษณะเฉพาะ มีลักษณะต่างๆชัดเจนแตกต่างจากสุนัข พื้นบ้านโดยทั่วไป
จากนั้นเมื่อมีผู้เข้าไปพบเห็น เกิดการชื่นชอบจึงนำออกมาเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในเมืองพิษณุโลก และเรียกสุนัขดังกล่าวว่า “สุนัขบางแก้ว” ตามถิ่นกำเนิดของสุนัขนั้น เมื่อเกิดความนิยมของคนเลี้ยงทั่วไปในเมืองพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นของผู้ที่เลี้ยงสุนัขบางแก้ว ผู้ที่ชื่นชอบ และหน่วยงานของรัฐ เพื่อจะพัฒนาสุนัขบางแก้วให้มีมาตรฐาน จากนั้นราวปี พ.ศ. 2500 จึงมีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ของสุนัขบางแก้วขึ้นมาเป็นครั้งแรก และมีการคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้นมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาสุนัขบางแก้ว รวมถึงการให้ความรู้ในการเลี้ยงการให้ยากับผู้เลี้ยง จากหน่วยงานของรัฐ ทำให้สุนัขบางแก้วมีอัตราการรอดมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างของสุนัขบางแก้วที่มีความโดดเด่นต่อผู้ที่พบเห็น รวบถึงผู้ที่เลี้ยงไว้ ทำให้สุนัขบางแก้วกายเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงสุนัขทั่วไป ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เฝ้าระวังภัยให้กับบ้านเรือนอย่างไว้ใจได้เป็นอย่างดี
หมาน่ารัก
สุนัขไทยบางแก้ว มีจุดกำเนิดอยู่ที่ วัดบางแก้ว บ้านบางแก้ว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ในช่วงสมัยหลวงปู่มาก เป็นเจ้าอาวาสรุ่นที่ 3 ของวัดบางแก้ว ท่านเป็นผู้มีความเมตตาต่อสัตย์ และเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นจำนวนมากมายหลายชนิด ทั้งสัตว์บ้านและสัตว์ป่า รวมทั้งสุนัขด้วย ซึ่งสุนัขที่ท่านเลี้ยงนั้นไม่มีการกล่าวกันมาว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์ใดอย่างชัดเจน แต่ตามเรื่องเล่าสืบต่อกันมานั้นท่านมีสุนัขสีดำขนยาวเพศเมียตัวหนึ่ง เมื่อเป็นสัดในฤดูผสมพันธุ์ได้เข้าไปในแนวป่ามีการสันนิฐานว่าไปผสมกับหมาป่า เนื่องด้วยบริเวณวัดบางแก้วในสมัยนั้นมีลักษณะรอบ ๆ เป็นป่า มีสัตว์ป่าอาศัยค่อยข้างชุกชุม จนกระทั้งสุนัขตัว นั้นได้คลอดลูกออกมา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากสุนัขอื่นๆ ที่มีอยู่ในวัดทั่วไป คือมีขนยาวฟู คล้ายสุนัขต่างประเทศ มีลักษณะสวยงาม โดดเด่นน่าเลี้ยง และมีความดุ จากนั้นสุนัขแบบนี้ก็มีให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวัดบางแก้ว จนประชาชนที่ไปวัด นั้นเห็นถึงความสวยงาม ฉลาด หวงของ และดุ มีความซื่อสัตย์ และภักดีต่อผู้เป็นเจ้าของ จึงขอสุนัขจากท่านหลวงปู่มากมาเลี้ยง เพื่อใช้ในการเฝ้าบ้าน เฝ้าแพ หรือแม้กระทั้งเฝ้าท้องไร่ ท้องนา เพราะความหวงของและซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนาย
สุนัขชนิดนี้จึงแพร่ขยายออกไปทั่วหมู่บ้าน และด้วยเหตุปัจจัยที่หมู่บ้านบางแก้วนั้นมีภูมิประเทศเป็นเกาะในช่วงฤดูน้ำหลากโดยมีแม่น้ำล้อมรอบ และประจวบกับในช่วงดังกล่าวก็เป็นช่วงที่สุนัขนั้นเป็นสัดพอดี สุนัขนั้นไปสามารถออกไปผสมกับสุนัขในถิ่นอื่นได้ จึงเกิดการผสมพันธุ์กันเองภายในเครือญาติเดียวกันหลายต่อหลายช่วงอายุ จนเกิดเป็นสุนัขที่มีลักษณะที่มีลักษณะเฉพาะ มีลักษณะต่างๆชัดเจนแตกต่างจากสุนัข พื้นบ้านโดยทั่วไป
จากนั้นเมื่อมีผู้เข้าไปพบเห็น เกิดการชื่นชอบจึงนำออกมาเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในเมืองพิษณุโลก และเรียกสุนัขดังกล่าวว่า “สุนัขบางแก้ว” ตามถิ่นกำเนิดของสุนัขนั้น เมื่อเกิดความนิยมของคนเลี้ยงทั่วไปในเมืองพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นของผู้ที่เลี้ยงสุนัขบางแก้ว ผู้ที่ชื่นชอบ และหน่วยงานของรัฐ เพื่อจะพัฒนาสุนัขบางแก้วให้มีมาตรฐาน จากนั้นราวปี พ.ศ. 2500 จึงมีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ของสุนัขบางแก้วขึ้นมาเป็นครั้งแรก และมีการคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้นมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาสุนัขบางแก้ว รวมถึงการให้ความรู้ในการเลี้ยงการให้ยากับผู้เลี้ยง จากหน่วยงานของรัฐ ทำให้สุนัขบางแก้วมีอัตราการรอดมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างของสุนัขบางแก้วที่มีความโดดเด่นต่อผู้ที่พบเห็น รวบถึงผู้ที่เลี้ยงไว้ ทำให้สุนัขบางแก้วกายเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงสุนัขทั่วไป ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เฝ้าระวังภัยให้กับบ้านเรือนอย่างไว้ใจได้เป็นอย่างดี
สุนัขชนิดนี้จึงแพร่ขยายออกไปทั่วหมู่บ้าน และด้วยเหตุปัจจัยที่หมู่บ้านบางแก้วนั้นมีภูมิประเทศเป็นเกาะในช่วงฤดูน้ำหลากโดยมีแม่น้ำล้อมรอบ และประจวบกับในช่วงดังกล่าวก็เป็นช่วงที่สุนัขนั้นเป็นสัดพอดี สุนัขนั้นไปสามารถออกไปผสมกับสุนัขในถิ่นอื่นได้ จึงเกิดการผสมพันธุ์กันเองภายในเครือญาติเดียวกันหลายต่อหลายช่วงอายุ จนเกิดเป็นสุนัขที่มีลักษณะที่มีลักษณะเฉพาะ มีลักษณะต่างๆชัดเจนแตกต่างจากสุนัข พื้นบ้านโดยทั่วไป
จากนั้นเมื่อมีผู้เข้าไปพบเห็น เกิดการชื่นชอบจึงนำออกมาเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในเมืองพิษณุโลก และเรียกสุนัขดังกล่าวว่า “สุนัขบางแก้ว” ตามถิ่นกำเนิดของสุนัขนั้น เมื่อเกิดความนิยมของคนเลี้ยงทั่วไปในเมืองพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นของผู้ที่เลี้ยงสุนัขบางแก้ว ผู้ที่ชื่นชอบ และหน่วยงานของรัฐ เพื่อจะพัฒนาสุนัขบางแก้วให้มีมาตรฐาน จากนั้นราวปี พ.ศ. 2500 จึงมีการกำหนดมาตรฐานสายพันธุ์ของสุนัขบางแก้วขึ้นมาเป็นครั้งแรก และมีการคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้นมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาสุนัขบางแก้ว รวมถึงการให้ความรู้ในการเลี้ยงการให้ยากับผู้เลี้ยง จากหน่วยงานของรัฐ ทำให้สุนัขบางแก้วมีอัตราการรอดมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างของสุนัขบางแก้วที่มีความโดดเด่นต่อผู้ที่พบเห็น รวบถึงผู้ที่เลี้ยงไว้ ทำให้สุนัขบางแก้วกายเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงสุนัขทั่วไป ด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เฝ้าระวังภัยให้กับบ้านเรือนอย่างไว้ใจได้เป็นอย่างดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)